วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แดนอารยะธรรม สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกตะวันออก (ปราสาทนครวัด - เมืองนครธม)

เสียมเรียบ หรืิอ เสียมราฐ เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ริมฝั่งทะเลสาบเขมร เสียมราฐ เป็นที่ตั้งของนครวัด และกลุ่มปราสาทหินหลายแห่ง อาทิ หมู่ปราสาทหินจากอาณาจักรขอม ได้แก่ ปราสาทนครวัด, กลุ่มปราสาทนครธม, (ตาพรหม และบายน, บันทายศรี, บากอง, โลเลย, พนมบาเค็ง, พนมกุเลน และ บารายตะวันตก


ขอบคุณภาพจาก : www.aseanthai.net

องค์เจ็ก องค์จอม : ศาลองค์เจ็ก องค์จอมเปรียบเสมือนศาลหลักเมืองสิ่องศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเสียมเรียบ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร
ประวัติศาสตร์ขององค์เจ็กกับองค์จอม   องค์เจ็กกับองค์จอมเป็นพี่น้องกัน และมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมาก วันหนึ่งหลังจากไปทำบุญ กลับมาบ้านก็นอนหลับแล้วไม่­ตื่นขึ้นมาอีก บิดามารดามีความเสียใจและอาลัยกับลูกสาวทั­้งสองคนอย่างมาก จึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมาสององค์ องค์ใหญ่นามว่าองค์เจ็ก องค์เล็กเป็นน้องนามว่าองค์จอม เป็นพระพุทธรูปพี่น้องคู่บ้านคู่เมือง 


ขอบคุณภาพจากpantip.com


ขอบคุณภาพจาก www.angkortktravel-tours.com

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังกอร์ : เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการรวบรวมวัตถุโบราณและนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชนชาติกัมพูชา  ทางด้านวัฒนธรรม  สังคม  การปกครอง  ความเชื่อและศาสนาของอาณาจักรของโบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างปราสาทนครวัด  และชมพระพุทธรูปเก่าแกนับพันองค์ที่รวบรวมไว้ มีการจัดแสดงได้อย่างงดงาม


ขอบคุณภาพจาก : www.wadsin.webuda.com


ขอบคุณภาพจาก : www.seasia2015-cambodia.com


ปราสาทบันทายสรี : สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมัน  สร้างด้วยหินทรายสีชมพูแกะสลักภาพนูนต่ำอย่างงดงาม ชมโคปุระหรือซุ้มประตูที่มีลวดลายสวยงงาม จำหลักเป็นรูปพระอิศวรทรงช้างเอราวัณ ในภาษาเขมรเรียกว่า "บันเตย์เสรย"



ขอบคุณภาพจาก : www.thewatourism.com


ปราสาทตาพรหมสร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศให้แก่พระมารดา ซึ่งมีต้นสะปงขนาดใหญ่แผ่รากเกาะกุมระเบียงคต ให้ความลึกลับแก่ผู้เข้าชม


ขอบคุณภาพจาก th.tripadvisor.com

ปราสาทนครวัด : มหาปราสาทนครวัด หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในรอบพันปี ภายในสามารถชมภาพแกะสลักหินทราย นูนต่ำที่ระเบียงคตทั้ง ด้าน ซึ่งแกะสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย เช่น การยกทัพของชาวขอม ภาพการกวนเกษียรสมุทร ภาพมหากาพย์รามนณะ และยังมีภาพแกะสลักของนาอัปสรกว่า 1,260 นาง


ขอบคุณภาพจาก : www.cmprice.com


ขอบคุณภาพจาก : www.indochinaexplorer.com

พนมบาเค็ง :  เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด สามารถดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้จากที่นี่


ขอบคุณภาพจาก : pantip.com

โตนแลสาบ  เป็นทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียซึ่งเกิดจากแม่น้ำโขง ซึ่งมีแม่น้ำโขงไหลผ่านยาว 500กิโลเมตร และเชื่อกันว่าปลาบึกซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดว่ายทวนน้ำจากโตนเลสาปขึ้นสู่ประเทศ ไทย-ลาวเพื่อไปผสมพันธุ์ที่จีนซึ่งเป็นต้นแม่น้ำโขง กิจกรรมที่สามารถทำได้ก็มี การล่องเรือชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมง


ขอบคุณภาพจาก : th.wikipedia.org

 ตลาดซาจ๊ะ เป็นตลาดในเมืองเสียมเรียบ ขายสินค้าเกือบทุกประเภท ตั้งแต่เครื่องครัว ของชำ ของ

ใช้ ไปจนถึงของฝากนานาชนิด เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวได้สินค้าครบทุกอย่าง ราคาไม่แพง อยู่ที่เราต่อรอง

กับพ่อค้าแม่ขาย บางร้านพูดไทยได้บ้าง บางร้านภาษาอังกฤษ เงินรับเงินเรียลและเงินดอล 



ขอบคุณภาพจาก : www.indochinaexplorer.com

หมู่บ้านวัฒนธรรมกัมพูชา : ชมวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ จากอดีตถึงปัจจุบัน และยังมีหุ่นขี้ผึ้งที่แสดงถึงบุคคลสำคัญต่างๆ และเมืองจำลองสถานที่สำคัญของประเทศกัมพูชา


ขอบคุณภาพจาก : www.indochinaexplorer.com

บารายตะวันตก : เป็นอ่างเก็บน้ำฝีมือมนุษย์ที่มีความยาวถึง 8,000 เมตร และกว้าง 2,200 เมตร ขุดเมื่อ 1,000 กว่าปีมาแล้ว สามารถรองรับน้ำจากเทือกเขาพนมกุเลนได้ถึง 123 ล้านคิวปิกลิตร


ขอบคุณภาพจาก : www.weekendhobby.com

นอกจากนั้นแล้วยังมีสถานที่น่าสนใจอีก เช่น โรงเรียนแกะสลักหินทราย ที่ขึ้นชื่อในเมืองเสียมเรียบ






วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ซัวสะได..อังกอร์

เสียมเรียบ : เสียมเรียบ หรือ เสียมราฐ เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ริมฝั่งทะเลสาบเขมร เสียมราฐ เป็นที่ตั้งของนครวัด และกลุ่มปราสาทหินหลายแห่ง อาทิ หมู่ปราสาทหินจากอาณาจักรขอม ได้แก่ ปราสาทนครวัด, กลุ่มปราสาทนครธม, (ตาพรหม และบายนบันทายศรีบากองโลเลยพนมบาเค็งพนมกุเลน และ บารายตะวันตก


ขอบคุณภาพจาก : www.panoramio.com

โตนเลสาป : เป็นทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียซึ่งเกิดจากแม่น้ำโขง ซึ่งมีแม่น้ำโขงไหลผ่านยาว 500กิโลเมตร และเชื่อกันว่าปลาบึกซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดว่ายทวนน้ำจากโตนเลสาปขึ้นสู่ประเทศ ไทย-ลาวเพื่อไปผสมพันธุ์ที่จีนซึ่งเป็นต้นแม่น้ำโขง กิจกรรมที่สามารถทำได้ก็มี การล่องเรือชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมง


ขอบคุณภาพจาก : www.mcot.net


ขอบคุณภาพจาก : www.thaigoodview.com

ปราสาทบันทายสรี : เป็นปราสาทหินที่ถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศกัมพูชา มีความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์ และเป็นปราสาทแห่งเดียวที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 1000 ปี แต่ลวดลายก็ยังมีความคมชัด เหมือนกับสร้างเสร็จใหม่ ๆ
ปราสาทบันทายศรีหรือเรียกตามสำเนียงเขมรว่า บันเตียไสร หมายถึง ปราสาทสตรีหรือป้อมสตรี อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมเรียบไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร ใกล้กับแม่น้ำเสียมเรียบในบริเวณที่เรียกว่า อิศวรปุระ หรือเมืองของพระอิศวร

ขอบคุณภาพจาก : www.thewatourism.com


ขอบคุณภาพจาก : board.trekkingthai.com 

เมืองพระนครธม : นครธม เป็นเมืองพระนครที่มีปราสาทและพระราชวังต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังมีประติมากรรมงดงามแปลกตานับไม่ถ้วน โดยมีจุดสำคัญที่น่าสนใจหลายจุด เช่น ประตูด้านทิศใต้ของเมือง ที่มีรูปประติมากรรมลอยตัวของเทวดาและอสูรฉุดนาคเพื่อกวนเกษียรสมุทร, พระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่มีใบหน้าและรอยยิ้มแบบบายนอันน่าพิศวง, กรอบประตูที่มีประติมากรรมลอยตัวพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 3 เศียร ที่น่าเกรงขาม, ปราสาทบายน ที่ถูกสร้างด้วยการนำหินมาวางซ้อนเป็นรูปร่างเป็นปราสาท โดยมีแต่ใบหน้าคนอยู่ทั่วไปหมด จนเกิดความน่าเกรงขามปนลี้ลับอย่างน่าสนใจ ในเมืองพระนครธมยังมีปราสาทบายนที่น่าสนใจ สัมผัส รอยยิ้มบายน เป็นศูนย์กลางของนครธมซึ่งเป็นสุดยอดปราสาทของเขมรในยุคเสื่อมคือในรัชสมัยของเจ้าชัยวรมันที่ 7 ยอดปราสาทขนาดยักษ์ทุกหลังจะแกะเป็นเทวพักต์ 4 หน้า หันออกไปทอดพระเนตรความสุขความทุกข์ของประชาชน


ขอบคุณภาพจาก : www.loeitravel.com


ขอบคุณภาพจาก : aseanline.blogspot.com


ขอบคุณภาพจาก : www.tourtooktee.com

ปราสาทตาพรหม : สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศให้แก่พระมารดา ซึ่งมีต้นสะปงขนาดใหญ่แผ่รากเกาะกุมระเบียงคต ให้ความลึกลับแก่ผู้เข้าชม


ขอบคุณภาพจาก : th.tripadvisor.com


ขอบคุณภาพจา: www.thaifly.com

ปราสาทนครวัด : มหาปราสาทนครวัด หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในรอบพันปี ภายในสามารถชมภาพแกะสลักหินทราย นูนต่ำที่ระเบียงคตทั้ง 4 ด้าน ซึ่งแกะสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย เช่น การยกทัพของชาวขอม , ภาพการกวนเกษียรสมุทร , ภาพมหากาพย์รามนณะ และยังมีภาพแกะสลักของนาอัปสรกว่า 1,260 นาง


ขอบคุณภาพจาก : www.attachephanompenh.navy.mi.th


ขอบคุณภาพจาก : www.mcot.net

เขาพนมบาเค็ง : เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด สามารถดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้จากที่นี่


ขอบคุณภาพจาก : pantip.com


ขอบคุณภาพจาก : www.oknation.net

เทือกเขาพนมกุเลน : เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สำคัญในประเทศกัมพูชา บนเทือกเขาพนมกุเลนยังเป็นต้นแม่น้ำ ลำธารจะไหลผ่าน แผ่นทับหลังรูปสลัก น้ำในลำธารนี้ชาวกัมพูชาเชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่ศักดิ์สิทธิ ใช้ในการพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒนสัตยา และพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี อีกด้วย


ขอบคุณภาพจาก www.uasean.com

โบสถ์ลอยฟ้า : นมัสการพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเขมรบนโบสถ์ลอยฟ้าที่วัดเขาพนมกุเลนเป็นพระที่แกะสลักจากหินธรรมชาติก้อนใหญ่บนยอดเขาพนมกุเลน 


ขอบคุณภาพจา: pantip.com

เทวาลัยใต้น้ำ :  มีศิวลึงค์นับพันองค์บนเขาพนมกุเลนแห่งนี้จมอยู่ใต้ลำธารน้ำ ในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย บูชาศิวลึงค์ว่าเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งที่มีชีวิตทั้งมวล ศิวลึงค์นั้นก็คืออวัยวะเพศชายใช้แทนองค์พระศิวะเทพเจ้าในศาสนาฮินดู และฐานโยนีที่ล้อมรอบศิวลึงค์ นั่นก็คืออวัยวะเพศหญิงซึ่งหมายถึงพระนางอุมาเทวีชายาของพระศิวะนั่นเอง ในศาสนาฮินดูเชื่อกันว่าตราบใดที่อวัยวะทั้งสองอย่างนี้ถ้ายังอยู่ด้วยกัน ตราบนั้นโลกจะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง  สำหรับการบูชาศิวลึงค์นั้น พราหมณ์จะเป็นผู้นำน้ำมาราดบนศิวลึงค์และน้ำที่รดนั้นจะไหลออกไปที่ช่องโยนี ลงไปสู่ท่อโสมสูตรประชาชนก็จะมารองรับน้ำนี้ไปดื่มกินกันโดยเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้


ขอบคุณภาพจาก : travel.thaiza.com

ขอบคุณภาพจาก : www.oknation.net

ตลาดซาจ๊ะ : ตลาดซาจ๊ะ เป็นตลาดในเมืองเสียมเรียบ ขายสินค้าเกือบทุกประเภท ตั้งแต่เครื่องครัว ของชำ ของไช้ ไปจนถึงของฝากนานาชนิด เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวได้สินค้าครบทุกอย่าง ราคาไม่แพง อยู่ที่เราต่อรองกับพ่อค้าแม่ขาย บางร้านพูดไทยได้บ้าง บางร้านภาษาอังกฤษ เงินรับเงินเรียลและเงินดอล 


ขอบคุณภาพจาก : www.indochinaexplorer.com

การแสดงระบำอัปสรา : เป็นการแสดงนาฏศิลป์ที่โดดเด่นของกัมพูชา ซึ่งถอดแบบการ แต่งกายและท่าร่ายรำมาจากภาพจำหลักรูปนางอัปสรที่ปราสาทนครวัด นางอัปสราตัวเอกองค์แรก คือ เจ้าหญิงบุพผาเทวี พระราชธิดาในเจ้าสีหนุ เป็นระบำที่กำเนิดขึ้นเพื่อ เข้าฉากภาพยนตร์เกี่ยวกับนครวัดที่กำกับโดย Marchel Camus ชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า L"Oiseau du Paradis ก็คือ The Bird of Paradise หลังจากนั้น ระบำอัปสรา ก็เป็นระบำขวัญใจชาวกัมพูชา ใครได้ เป็นตัวเอกในระบำอัปสรานั้นเชื่อได้ว่า เป็นตัวนางชั้นยอดแห่งยุคสมัยนครวัด เป็นอุดมคติแห่งชาติกัมพูชา นางอัปสราในนครวัดก็เป็นอุดมคติแห่งสตรีเขมร ดังนั้นการชุบชีวิตนางอัปสราออกมาเป็น ระบำระดับชาตินั้นมีความหมายในเชิงชาติพันธุ์นิยม เพื่อให้เข้าถึงสัญลักษณ์สูงสุดแห่งสตรีแขมร์ ระบำอัปสรามีชื่อเสียง ขึ้นมาด้วยการอิงบนความยิ่งใหญ่ของนครวัด และระบำอัปสราก็จำลองภาพสลักที่แน่นิ่งไร้ความ เคลื่อนไหวในนครวัดให้หลุดออกมามีชีวิต ดอกไม้เหนือเศียรนางอัปสราส่วน ใหญ่ในปราสาทนครวัดคือ ดอกฉัตร พระอินทร์ เนื่องจากรูปทรงของดอกชนิดนี้พ้องกันกับภาพสลัก เขมรเรียกดอกไม้ชนิดนี้ ว่า "ดอกเสนียดสก" เสนียด คือสิ่งที่เอามาเสียด และสก คือผม ชื่อของดอกไม้บ่งบอกว่าเป็นดอกสำหรับเสียดผม เข้าใจว่าสมัยโบราณสตรีชั้นสูง ของเขมรคงประดับ ศีรษะด้วยดอกไม้หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือดอกฉัตรพระอินทร์ ดังหลักฐานภาพสลักนางอัปสรา ที่พบ ในปราสาทหินขอม ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของช่างสลักจากที่ได้เห็นของจริง


ขอบคุณภาพจาก : asiandancestep123.blogspot.com

 

ขอบคุณภาพจาก : sites.google.com